🚧 อุปสรรคที่ต้องเจอเมื่อนำเข้ามัทฉะจากญี่ปุ่น

1️⃣ เลือกแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือไม่ง่ายอย่างที่คิด

ญี่ปุ่นมีผู้ผลิตมัทฉะมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกแห่งที่มีคุณภาพดี บางที่อาจใช้มัทฉะเกรดต่ำ หรือแต่งสีให้ดูเขียวสด

การเลือกซัพพลายเออร์ต้องดูทั้งใบรับรอง (Certificate) คุณภาพของชา แหล่งปลูก และกระบวนการผลิต

ต้องติดต่อเป็นภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน

2️⃣ ต้นทุนแฝงที่เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ราคามัทฉะที่ญี่ปุ่นอาจดูไม่แพง แต่เมื่อรวมค่าขนส่ง ภาษีนำเข้า และค่าธรรมเนียมศุลกากรแล้ว อาจทำให้ต้นทุนต่อกิโลสูงขึ้นมาก

หากสั่งในปริมาณน้อย ค่าขนส่งจะสูงขึ้นต่อหน่วย แต่ถ้าสั่งมากเกินไปก็ต้องมีที่เก็บที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพ

3️⃣ กฎหมายและเอกสารการนำเข้าที่ซับซ้อน

การนำเข้าอาหารต้องมีเอกสารรับรองจากโรงงาน เช่น

✅ ใบรับรองออร์แกนิก (หากต้องการขายในตลาดพรีเมียม)

✅ Certificate of Analysis (COA) เพื่อยืนยันคุณภาพของมัทฉะ

✅ ใบอนุญาตจาก อย. หากต้องการขายในไทย

หากเอกสารไม่ครบหรือผิดพลาด อาจทำให้สินค้าติดอยู่ที่ด่านศุลกากร

4️⃣ มัทฉะเป็นสินค้าที่อ่อนไหว ต้องดูแลอย่างดี

มัทฉะไวต่อแสง อากาศ ความชื้น และอุณหภูมิ หากขนส่งหรือเก็บรักษาไม่ดี อาจทำให้สีหมอง รสชาติเพี้ยน สูญเสียคุณภาพ

โรงงานบางแห่งแพ็คชาในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพอากาศไทย ทำให้มัทฉะเสียเร็วขึ้น

✅ ซื้อมัทฉะกับ "Ze Em" ง่ายกว่า ไม่ต้องปวดหัวเรื่องนำเข้า!

🔹 เราคัดสรรมัทฉะแท้จากญี่ปุ่น โดยตรงจากแหล่งปลูกที่ดีที่สุด

🔹 มั่นใจในคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ไม่มีสารแต่งสีหรือเจือปน

🔹 มีเอกสารครบ พร้อมจำหน่ายในไทย ถูกต้องตามกฎหมาย

🔹 ราคาคุ้มค่า ต้นทุนต่อแก้วต่ำ เหมาะกับร้านค้าและผู้ประกอบการ

🔹 ขนส่งเร็ว ได้ของไว ไม่ต้องรอนาน

📦 ขายปลีก-ส่ง มีทั้ง Ceremonial Grade สำหรับดื่ม และ Culinary Grade สำหรับทำขนมและเครื่องดื่ม